โรคไวรัสตับอักเสบเป็นอีกโรคหนึ่งที่เราได้ยินคุ้นหูกันมานาน และถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญในประเทศไทย โดยข้อมูลจากกรมควบคุมโรคเผยว่า ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อตับอักเสบบีในประเทศไทยราวๆ 2.2-3 ล้านคน และตับอักเสบซีประมาณ 3-8 แสนคน จากจำนวนสถิติจะเห็นได้ว่าในประเทศไทยเองก็มีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อย อีกทั้งไวรัสตับอักเสบยังเป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคตับแข็งและมะเร็งตับอีกด้วย จึงควรเร่งให้ทุกคนตื่นตัวและมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ให้มากขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การติดเชื้อในอนาคตได้
ไวรัสตับอักเสบมีกี่สายพันธุ์
เชื้อไวรัสตับอักเสบมีอยู่ด้วยกัน 5 สายพันธุ์ ได้แก่ เอ บี ซี ดี และอี โดยมีลักษณะการติดต่อที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ซึ่งสายพันธุ์ที่พบมากในประเทศไทย คือ ไวรัสตับอักเสบบีและซี
ไวรัสตับอักเสบเกิดจากอะไร
ไวรัสตับอักเสบเกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี ดี อี โดยสาเหตุของการติดเชื้อไวรัสในแต่ละสายพันธุ์สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท ดังนี้
ติดต่อผ่านอาหารและน้ำ ติดต่อผ่านเลือดและสารคัดหลั่ง
ไวรัสตับอักเสบ เอ ไวรัสตับอักเสบ บี
ไวรัสตับอักเสบ อี ไวรัสตับอักเสบ ซี
ไวรัสตับอักเสบ ดี (พบน้อยมากในประเทศไทย)
อาการของไวรัสตับอักเสบแต่ละสายพันธุ์
สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบสามารถแบ่งกลุ่มอาการออกได้ 2 แบบ ดังนี้
1. การติดเชื้อตับอักเสบแบบเฉียบพลัน กลุ่มอาการนี้มักพบในการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ บี อี (ไวรัสตับอักเสบซีเฉียบพลันพบได้น้อย) ซึ่งภายหลังติดเชื้อร่างกายจะแสดงอาการเหล่านี้
มีไข้ต่ำๆ
ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลีย
เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน
ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม
ตาเหลือง ตัวเหลือง
2. การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบแบบเรื้อรัง เกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ มักมีเพียงค่าเอนไซม์ตับผิดปกติจากการเจาะเลือดเท่านั้น ทำให้ผู้ป่วยส่วนหนึ่งที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยอาจมาพบแพทย์ครั้งแรกด้วยอาการของภาวะแทรกซ้อนจากตับแข็งหรือมะเร็งตับได้ เช่น อาเจียนเป็นเลือดจาก ท้องมาน ตัวตาเหลือง หรือ คลำได้ก้อน เป็นต้น
วิธีการดูแลตัวเอง และการป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ
อย่างที่กล่าวข้างต้นว่าไวรัสตับอักเสบเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ แน่นอนว่าการป้องกันไว้ก่อนมักจะดีกว่าการรักษาทีหลัง โดยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงและปฏิบัติตามข้อแนะนำ ดังนี้
รับประทานอาหารที่ปรุงสุกด้วยความร้อนและดื่มน้ำสะอาด
ใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
ไม่ใช้เข็มฉีดยา หรือเข็มสักร่วมกับผู้อื่น
หลีกเลี่ยงการสัมผัสเลือดและสารคัดหลั่ง
ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์
ฉีควัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอและบี
ไวรัสตับอักเสบบีและซี เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับหรือไม่ ?
ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี หรือซี เป็นการติดเชื้อแบบเรื้อรัง ซึ่งภายในตับเกิดการอักเสบเป็นเวลานาน หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจนำไปสู่โรคตับแข็ง และโรคมะเร็งตับได้
จากข้อมูลที่เราให้ไว้ข้างต้นจะเห็นได้ว่า สถานการณ์การติดเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบในประเทศยังน่าเป็นห่วงมากเช่นกัน ดังนั้นการป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากการติดเชื้อและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำลายตับจึงเป็นสิ่งที่พึงปฏิบัติอย่างยิ่ง อีกการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพื่อสร้างเกราะป้องกันที่ดีที่สุดให้ร่างกายและยังช่วยลดอาการรุนแรงเมื่อติดเชื้อได้อีกด้วย
ไวรัสตับอักเสบ ภัยเงียบใกล้ตัวคุณ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions/177